- บทความ
- รู้ไว้ก่อนเลือกใช้สกินแคร์ พาราเบนใช้แล้วผิวพัง อันตรายจริงหรือ ?
รู้ไว้ก่อนเลือกใช้สกินแคร์ พาราเบนใช้แล้วผิวพัง อันตรายจริงหรือ ?

เคยเป็นกันไหม เวลาเข้า Beauty Store เลือกดูสกินแคร์หรือครีมบำรุงผิวต่าง ๆ แล้วเห็นคำว่า “Paraben Free หรือ ปราศจากพาราเบน” คำที่แปะอยู่บนฉลากแบบโดดเด่น พอเห็นแบบนี้แล้วหลายคนคงตีความไปว่า พาราเบน ต้องเป็นสิ่งที่อันตรายกับผิว แต่ในอีกมุมหนึ่ง พาราเบนถูกใช้มาหลาย 10 ปีในวงการเครื่องสำอางและครีมดูแลผิว
สรุปแล้วพาราเบนคืออะไร? อันตรายจริงไหม? เลี่ยงได้เลี่ยงกับผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมนี้ทั้งหมดเลยรึเปล่า? วันนี้ศิริราชบำรุงเวชจะพาคุณมาทำความรู้จัก “พาราเบน” แบบลงรายละเอียดเพื่อให้คุณมั่นใจมากขึ้นเวลาเลือกซื้อสกินแคร์
พาราเบนคืออะไร ?
พาราเบน (Paraben) ไม่ใช่ชื่อสารเพียง 1 ตัว แต่คือ ชื่อที่ใช้เรียกรวมชนิดของสารกันเสียสังเคราะห์ที่อยู่ในกลุ่ม Esters ของ p-hydroxybenzoic acid หรือก็คือ กรดชนิดหนึ่งที่ไปจับกับแอลกอฮอล์ชนิดต่าง ๆ จนกลายเป็น พาราเบน (สารกันเสีย) ที่สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราและแบคทีเรีย ทำให้ผลิตภัณฑ์มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้นประมาณ 24-36 เดือน แต่ถ้าไม่มีพาราเบนหรือสารกันเสียใด ๆ เลย ผลิตภัณฑ์นั้นอาจเสื่อมประสิทธิภาพได้ง่ายและมีอายุการใช้งานที่สั้นเพียงไม่กี่วันหรือไม่กี่สัปดาห์
ส่วนใหญ่เรามักจะพบพาราเบนในสกินแคร์ ผลิตภัณฑ์ประเภทเครื่องสำอาง และของใช้ส่วนตัว เช่น ครีมบำรุงผิว แชมพู สบู่ โลชัน ไปจนถึงยาสีฟัน ซึ่งพาราเบนมีสารในกลุ่มหลายชนิด แต่ในวงการสกินแคร์และเครื่องสำอางนิยมใช้กันมากที่สุด ได้แก่
เมทิลพาราเบน (Methylparaben) : หนึ่งในพาราเบนที่มักจะใช้กันอย่างแพร่หลายในเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เพราะมีประสิทธิภาพในการป้องกันและยับยั้งเชื้อราและแบคทีเรียสูง
เอทิลพาราเบน (Ethylparaben) : ส่วนใหญ่จะใช้ผสมควบคู่กับ Methylparaben เพื่อทวีคูณประสิทธิภาพการป้องกันเชื้อจุลินทรีย์
โพรพิลพาราเบน (Propylparaben) : พาราเบนที่มักจะพบเยอะใน แชมพู ครีมนวด ครีมอาบน้ำ และโลชั่น เป็นต้น มักใช้ร่วมกันกับ Methylparaben และ Ethylparaben เพราะช่วยเสริมการป้องกันเชื้อโรคได้ดี
บูทิลพาราเบน (Butylparaben) : พาราเบนที่มีคุณสมบัติยับยั้งเชื้อราและแบคทีเรียได้ดีกว่า Methylparaben และ Ethylparaben และสามารถใช้ร่วมกับ Propylparaben ได้ตามปริมาณ % ที่กฎหมายกำหนด
จากข้อมูลของ CSC (Campaign for Safe Cosmetics) และ Mamaschoice บอกว่า Methylparaben และ Propylparaben เป็นประเภทที่พบได้บ่อยและแพร่หลายมากที่สุดในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีน้ำเป็นส่วนผสมเยอะ เช่น แชมพู ครีมนวดผม โลชัน และพบมากในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า ผิวกาย และสครับผิว เนื่องจากสามารถยืดอายุผลิตภัณฑ์เหล่านี้ได้ถึง 2 ปี
ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว สกินแคร์ หรือเครื่องสำอาง
จำเป็นต้องมีสารกันเสียเพื่อยืดอายุการใช้งานและคงประสิทธิภาพ
เพียงแต่ “Paraben Free” เป็นการบอกว่า ไม่ใช้พาราเบน
แต่ใช้สารกันเสียประเภทอื่นที่ไม่รุนแรงเท่าพาราเบนมาทดแทน
การเลือกผลิตภัณฑ์ที่ ไม่มีสารกันเสียเลย ถือเป็นความเสี่ยงต่อสุขภาพผิวอย่างยิ่ง
พาราเบนอันตรายจริงไหม?

หลายคนอาจสับสนว่า จริง ๆ แล้วพาราเบนดีหรือไม่ดี เราควรหลีกเลี่ยงการใช้หรือไม่ จากข้อมูลด้านความปลอดภัยเกี่ยวกับพาราเบน ถูกพูดถึงอย่างมากในวงการแพทย์และความงาม ตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุขไทย รวมถึงมาตรฐานความปลอดภัยสากล มีการกำหนดปริมาณสูงสุดของพาราเบนที่อนุญาตให้ใช้ในเครื่องสำอาง
Methylparaben และ Ethylparaben : ต้องไม่เกิน 0.4% (หากใช้ชนิดเดียว) และหากใช้รวมกันหลายชนิดต้องไม่เกิน 0.8%
Propylparaben และ Butylparaben : ต้องไม่เกิน 0.14% หากใช้ร่วมกับ Methylparaben และ Ethylparaben ต้องไม่เกิน 0.8% และ ห้ามใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ที่ไม่ต้องล้างออก เช่น ครีมทาผิวที่ไม่ต้องล้างออกหลังทา
ถึงอย่างนั้นสหภาพยุโรป (EU) มีพาราเบน 5 ตัวที่ถูกแบนหรือบังคับห้ามใช้ในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและเครื่องสำอาง เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลมากเพียงพอต่อการรองรับความปลอดภัยของพาราเบนกลุ่มนี้ :
ไอโซโพรพิลพาราเบน (Isopropylparaben)
ไอโซบูทิลพาราเบน (Isobutylparaben)
ฟีนิลพาราเบน (Phenylparaben)
เบนซิลพาราเบน (Benzylparaben)
เพนทิลพาราเบน (Pentylparaben)
ซึ่งพาราเบนทั้ง 5 ตัวที่ถูกห้ามใช้ในผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับผิวและเครื่องสำอาง ส่วนใหญ่มีความเสี่ยงต่อการทำงานของระบบฮอร์โมนและหากสะสมในร่างกายมากเกินไปอาจมีความเสี่ยงในการก่อมะเร็ง ในขณะที่ Methylparaben และ Ethylparaben ยังสามารถใช้ได้ในครีมบำรุงผิวและเครื่องสำอาง เนื่องจากมีข้อมูลวิจัยรองรับและร่างกายสามารถขับออกได้ง่ายกว่าพาราเบนประเภทข้างต้น
ความเสี่ยงที่พึงระวังเมื่อใช้พาราเบน

แม้เราจะรู้แล้วว่า พาราเบนส่วนใหญ่นั้นยังอยู่ในโซนที่ยังปลอดภัยในการใช้หากอยู่ในเปอร์เซ็นต์ที่ได้รับอนุญาต อย่างไรก็ตามยังมีบางประเด็นที่ผู้ใช้ควรรับรู้และระมัดระวัง เนื่องจากปฏิกิริยาของร่างกายต่อสารเคมีอาจมีแตกต่างกันไปตามสภาพผิว ช่วงวัย และสุขภาพของผู้ใช้ ดังนี้
1. อาการแพ้
อาการแพ้จากการใช้พาราเบนอาจเกิดกับผู้ใช้บางคน โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายหรือมีโรคผิวหนัง หรือมีอาการผื่นระคายสัมผัส (อ่านเกี่ยวกับอาการระคายเคืองผิวจากการทาครีมแล้วแสบหน้า) โดยมีอาการเป็นผื่นแดงตามผิวหนัง ทำให้รู้สึกคันยุบยิบ ไม่สบายเนื้อสบายตัว ซึ่งส่วนใหญ่จะเกิดหลังจากสัมผัสสารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้หรือสารที่ทำให้เกิดการระคายเคือง โดยส่งผลให้เกิดอาการ ดังนี้
ผื่นแดงขึ้นตามร่างกาย
ระคายเคือง คันยุบยิบ
ผิวหนังเกิดการอักเสบ
รู้สึกแสบร้อนเฉพาะจุด
สำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายหรือแพ้ครีมทาผิวขาว ผู้ที่มีผิวประเภท Sensitive Skin ผู้ที่มีผิวหนังอักเสบโดยไม่ทราบสาเหตุที่สงสัยว่าตัวเองแพ้พาราเบนหรือไม่หรือแพ้ตัวใดบ้าง ศิริราชบำรุงเวชเราขอแนะนำให้ลอง Patch Test ก่อนเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ เป็นการตรวจอาการแพ้ที่สามารถชี้ชื่อสารที่เราแพ้ได้อย่างชัดเจน
2. ความเสี่ยงในการเป็นสารก่อมะเร็ง
มีข้อมูลพูดถึง พาราเบนมีส่วนที่ก่อให้เกิดมะเร็งเต้านม เนื่องจากพาราเบนบางชนิดมีคุณสมบัติคล้ายกับฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) ซึ่งอาจเกิดจากการทาผลิตภัณฑ์ที่มีพาราเบนบ่อยครั้งบริเวณหน้าอก ถึงอย่างนั้นในปัจจุบันงานวิจัยต่าง ๆ ยังไม่มีข้อมูลรายละเอียดว่าพาราเบนสามารถก่อให้เกิดโรคมะเร็งเต้านมได้ หากคุณกังวลหรือคนในครอบครัวมีประวัติเกี่ยวกับมะเร็งเต้านมควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนใช้
3. กลุ่มคนที่ควรเลี่ยงหรือระวังพาราเบน

แม้ว่าพาราเบนในภาพรวมนั้นจะมีความปลอดภัย แต่พาราเบนยังเป็นสารที่คนบางกลุ่มควรหลีกเลี่ยงการสัมผัส
ทารกและเด็กเล็ก : เนื่องจากพวกเขามีผิวพรรณที่บอบบาง ดูดซึมสารเคมีได้ง่าย ควรเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีพาราเบนเป็นส่วนประกอบ
ผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย ภูมิแพ้ผิวหนัง : เนื่องจากกลุ่มคนเหล่านี้มีโอกาสสูงที่จะเกิดอาการแพ้ฉับพลันหรือเกิดผื่นลามทั่วผิวหนังได้ง่ายกว่าคนทั่วไป
หญิงตั้งครรภ์และผู้ที่ให้นมลูก : สำหรับคนกลุ่มนี้อาจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีพาราเบนก่อน เพื่อความปลอดภัยต่อเด็กและความสบายใจให้ตนเอง
หากท่านเป็นบุคคลในกลุ่มดังกล่าวที่กำลังมองหาสกินแคร์ ศิริราชบำรุงเวชแนะนำว่าควรอ่านฉลากส่วนประกอบ หากเห็นคำว่า Methylparaben, Ethylparaben, Propylparaben, Butylparaben อาจหลีกเลี่ยงหรือสอบถามพนักงานหรือผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติมว่าสามารถใช้ได้หรือไม่ พร้อมเลือกผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากพาราเบน (Paraben Free)
รู้จักและเข้าใจพาราเบน เลือกสิ่งที่ใช่ให้ผิวมีสุขภาพดี
จากเนื้อหาที่กล่าวไป จะเห็นได้ว่าพาราเบนมีประโยชน์ แต่ก็ไม่ใช่สารที่ปลอดภัย 100% สำหรับทุกคน โดยสิ่งสำคัญคือ
การที่เข้าใจว่าพาราเบนคืออะไร มีประเภทใดบ้างเพื่อให้สามารถแยกแยะชื่อส่วนผสมหลังผลิตภัณฑ์ได้
รู้จักปริมาณที่กฎหมายอนุญาต
สังเกตผิวตัวเองว่ามีการแพ้หรือมีผื่นคันระคายเคืองหรือไม่เวลาใช้ผลิตภัณฑ์
เช็กส่วนผสมผลิตภัณฑ์ทุกครั้งก่อนซื้อ
หากมั่นใจว่า ตัวเองมีผิวแพ้ง่าย มีความเสี่ยงที่จะแพ้พาราเบน หรือกำลังมองหาผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยสำหรับตัวเอง ศิริราชบำรุงเวชขอแนะนำ 4 ผลิตภัณฑ์ที่ “ปราศจากพาราเบน” ที่พัฒนาโดยเภสัชกรจากโรงพยาบาลศิริราช เพื่อลดความเสี่ยง เพิ่มความมั่นใจสำหรับคุณ ดังนี้

ศิริราช มายด์ แชมพู SIRIRAJ MILD SHAMPOO : สูตรอ่อนโยนต่อเส้นผมและหนังศีรษะ มีส่วนผสมจาก Vitamin B3, Pentavitin, และ Arginine ช่วยบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะให้ชุ่มชื่น ปราศจากพาราเบนและซิลิโคน
ศิริราช ครีมอาบน้ำ SIRIRAJ SHOWER CREAM : ทำความสะอาดผิวด้วยส่วนผสมของว่านหางจระเข้ (Aloe Vera Leaf Juice) ผิวแลดูสดใส สุขภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติ ปราศจากพาราเบน
ศิริราช ผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดด (สีเนื้อ) ทินท์ฟิสิคอล ซันสกรีน SPF 50+ PA++++ SIRIRAJ TINTED PHYSICAL SUNSCREEN : ปกป้องผิวจาก UVA และ UVB พร้อมปรับสีผิวเรียบเนียนใช้ได้ทุกวัน ปราศจากน้ำหอมและพาราเบน
ศิริราช ครีมป้องกันแสงแดด เพียวฟิสิคอล ซันสกรีน SPF 50+ PA+++ SIRIRAJ PURE PHYSICAL SUNSCREEN : ช่วยป้องกันผิวจากแสงแดด รังสี UVA และ UVB ด้วยสูตรอ่อนโยนจากส่วนผสมอย่าง Zinc Oxide, Titanium Dioxide ปราศจากน้ำหอมและพาราเบน
ศิริราชบำรุงเวช เราอยากเห็นคุณและคนที่ห่วงใยมีสุขภาพผิวและจิตใจที่ดียิ่งขึ้นในทุกวัน การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากพาราเบนนับว่าเป็นตัวเลือกที่ช่วยให้คุณอุ่นใจไปอีกระดับ มาสร้างสุขอนามัยที่ดีไปด้วยกัน
สามารถดูรายละเอียดผลิตภัณฑ์ของศิริราชบำรุงเวชเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.sirirajbrv.com
Facebook : Sirirajbumrungvej
หรือโทรศัพท์สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : 096-893-0062


